สองโจมสองจู่จ้วง บำรู สองขัตติยสองขอชู เชิดด้ำ กระลึงกระลอกดู ไวว่อง นักนา ควาญขับคชแข่งค้ำ เข่นเขี้ยวในสนาม
คำว่า “โจม” “จู่” และ “จ้วง” ให้ความหมายว่าอย่างไร
"ขุนเสียมสามรรถต้าน ขุนตะเลง ขุนต่อขุนไป่เยง หย่อนห้าว ยอหัตถ์เทิดลบองเลบง อังกุศ ไกวแฮ งามเร่งงามโทท้าว ท่านสู้ศึกสาร"
การใช้คำ “ขุนต่อขุน” ในโคลงบทนี้มีความหมายว่าอย่างไร
พระที่พระผู้ผ่านภพอุต- ดมเอย ไป่ชอบเชษฐ์ยืนหยุด ร่มไม้ เชิญราชร่วมคชยุทธ์ เผยอเกียรติ ไว้แฮ สืบกว่าสองเราไสร้ สุดสิ้นฤๅมี
โคลงบทนี้เป็นการพูดแบบใด
นฤบดีโถมถีบสู้ ศึกธาร ฟอนฟาดสุงสุมาร มอดม้วย สายสินธุ์ซึ่งนองพนานต์หายเหือด แห้งแฮ พระเร่งปรีดาด้วย เผด็จเสี้ยนเศิกกษัย
โคลงลิลิตตะเลงพ่ายนี้กล่างถึงเรื่องใด เรื่องนั้นมีความสำคัญอย่างไร
หัสดีรณเรศอ้างอวสาร นี้นา นับอนาคตกาล ห่อนพ้อง ขัตติยายุทธ์บรรหาร คชคู่ กันแฮ คงแต่เผือพี่น้อง ตราบฟ้าดินกษัย
เป็นการกล่าวในทำนองใด